วิธีดูอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ MacBook ง่ายๆด้วยตัวเอง

เพื่อนๆหลายท่านที่ใช้คอมพิวเตอร์พกพาของ Apple อย่างเช่น MacBook ,MacBook Pro ,MacBook Air ทราบไหมครับว่าคุณสามารถดูอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของเครื่องคุณได้ โดย Apple ได้มีระบบการวัดปริมาณการชาร์จไฟและเรียกค่านี้ว่า "charge cycles" ครับ 

โดยในแต่ละรอบของการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มความจุ จะเท่ากับ 1 cycle ซึ่งการที่เรารู้จำนวนรอบที่เราชาร์จและจำนวนรอบการชาร์จที่เหลือของแบตเตอรี่จะช่วยให้เราประมาณได้ว่าควรจะเปลี่ยนแบตของเราเมื่อไหร่

วิธีการดูข้อมูลจำนวนรอบการชาร์จ

1. คลิกที่ Apple Menu () แล้วเลือก About this Mac แล้วคลิกที่ More Info

2. เลือกที่ System Report เพื่อเปิด System Information

3. เลือกที่ Power จากรายการ Contents ด้านซ้าย  (อยู่ในหมวด Hardware)

4. ด้านขวาจะพบกับข้อมูล Battery Information และตรงส่วนของ Health Information จะมีข้อมูล Cycle Count

จากภาพ จะเห็นว่าเครื่อง MacBook เครื่องนี้มีการชาร์จแบตเตอรี่ไปแล้ว 19 รอบ

ขอย้ำอีกทีนะครับ ว่านับการชาร์จจนเต็มความจุไม่ใช่นับจำนวนครั้งที่ชาร์จครับ ยกตัวอย่างเช่นเราเปิด Macbook ใช้แบตเตอรี่ไปครึ่งหนึ่งแล้วชาร์จจนเต็ม อีกวันก็มาใช้จนแบตหมดไปครึ่งหนึ่งแล้วก็ชาร์จจนเต็มเหมือนเดิม จะนับเป็น 1 cycle เท่านั้นครับ ไม่ใช่ 2 ฉะนั้นใน 1 cycle คุณอาจจะชาร์จหลายครั้งก็ได้ครับ

คราวนี้มาดูกันว่าแบตเตอรี่ของคอมพิวเตอร์แต่ละรุ่นมีอายุเท่าไรกันบ้างครับ (ข้อมูลจาก Apple)

Computer	Maximum Cycle Count
MacBook
MacBook (13-inch, Mid 2010) MacBook (13-inch, Late 2009)	1000
MacBook (13-inch Aluminum, Late 2008)	500
MacBook (Mid 2009) MacBook (Early 2009) MacBook (Late 2008) MacBook (Early 2008) MacBook (Late 2007) MacBook (Mid 2007) MacBook (Late 2006) MacBook (13-inch)	300
MacBook Pro
MacBook Pro (Retina, 13-inch, Early, 2013) MacBook Pro (Retina, 13-inch, Late 2012) MacBook Pro (13-inch, Mid 2012) MacBook Pro (13-inch, Late 2011) MacBook Pro (13-inch, Early 2011) MacBook Pro (13-inch, Mid 2010) MacBook Pro (13-inch, Mid 2009) MacBook Pro (Retina, 15-inch, Early, 2013) MacBook Pro (Retina, Mid 2012) MacBook pro (15-inch, Mid 2012) MacBook Pro (15-inch, Late 2011) MacBook Pro (15-inch, Early 2011) MacBook Pro (15-inch, Mid 2010) MacBook Pro (15-inch, 2.53 GHz, Mid 2009) MacBook Pro (15-inch Mid 2009) MacBook Pro (17-inch, Late 2011) MacBook Pro (17-inch, Early 2011) MacBook Pro (17-inch, Mid 2010) MacBook Pro (17-inch, Mid 2009) MacBook Pro (17-inch, Early 2009)	1000
MacBook Pro (15-inch Late 2008)	500
MacBook Pro (15-inch, Early 2008) MacBook Pro (15-inch, 2.4/2.2GHz) MacBook Pro (15-inch, Core 2 Duo) MacBook Pro (15-inch Glossy) MacBook Pro (15-inch) MacBook Pro (17-inch, Late 2008) MacBook Pro (17-inch, Early 2008) MacBook Pro (17-inch, 2.4GHz) MacBook Pro (17-inch Core 2 Duo) MacBook Pro (17-inch)	300
MacBook Air
MacBook Air (11-inch, Mid 2013) MacBook Air (11-inch, Mid 2012) MacBook Air (11-inch, Mid 2011) MacBook Air (11-inch, Late 2010) MacBook Air (13-inch, Mid 2013) MacBook Air (13-inch, Mid 2012) MacBook Air (13-inch, Mid 2011) MacBook Air (13-inch, Late 2010)	1000
MacBook Air (Mid 2009)	500
MacBook Air (Late 2008) MacBook Air	300
PowerBook
All PowerBook G4 12" 15" and 17" computers	300
iBook
All iBook G4 12" and 14" computers	300

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆได้นะครับ โดยเฉพาะเพื่อนๆที่อาจมีโอกาสต้องซื้อเครื่องมือสอง หากทราบเรื่องอายุแบตเตอรี่ก็จะเป็นประโยชน์ในการพิจารณาสภาพการใช้งานของเครื่องได้นะครับ

จดบันทึกได้รวดเร็วและสวยงามดั่งใจด้วย PaperPort Notes

วันนี้ทาง Apple Thai Info ขอแนะนำ App ใหม่สำหรับเพื่อนๆที่ใช้ iPad ครับ ซึ่ง App นี้มีชื่อว่า PaperPort Notes ซึ่งผลิตโดยบริษัท Nuance Communication ซึ่งโด่งดังจากระบบการรับรู้และตอบโต้ด้วยเสียงพูด Dragon dictation แบบเดียวกับ Siri

มาคราวนี้ Nuance ได้รวมเทคโนโลยีสุดเจ๋งนี้เข้ากับโปรแกรมพื้นฐานอย่างการจดโน้ต กลายเป็นสุดยอด App ที่น่าใช้อย่างยิ่งครับ นั่นคือนอกจากจะเป็นสมุดโน้ตที่ทำได้ค่อนข้างดีกว่า App อื่นๆแล้ว คือมี การเขียนด้วยลายมือ ปรับขนาดหัวปากกาและสีได้ ทำ stickie note แปะให้น่าสนใจ และสามารถบันทึกเสียง ใส่รูปภาพ ย่อขยายปรับหมุนได้ ที่โดดเด่นที่สุดก็คือสามารถพูดแล้วเครื่องจะจดเป็นตัวหนังสือให้เราตามที่เราพูดได้ด้วยครับ (แต่ต้องเป็นภาษาอังกฤษนะครับ)

มาดูรีวิวภาพตัวอย่างคร่าวๆกันนะครับ

สามารถเลือกรูปแบบแต่ละหน้าของโน้ตได้

บันทึกเสียงเพื่อแนบไปกับโน้ตแต่ละหน้า

สามารถเขียนไฮไลต์หรือวาดเพื่อทำหมายเหตุ และ Tap & Speak เพื่อพูดให้ระบบแปลงเสียงพูดเป็นตัวหนังสือ

ใส่รูปภาพ ปรับขนาด หมุน หรือแทรกโน้ตแปะได้ดั่งใจและสวยงาม

 เสร็จแล้วสามารถแชร์ได้หลายสื่อด้วยครับ

สรุปคุณสมบัติเด่นของ PaperPort Notes

• สามารถพิมพ์และเขียนด้วยลายมือได้อย่างรวดเร็วทันใจ
• ใช้เทคโนโลยีของ Dragon voice recognition ในการบันทึกเสียงและไอเดียต่างๆของคุณ และช่วยคุณจดโน้ตง่ายๆเพียงแค่คุณพูดเข้าไป
• เขียนหมายเหตุและทำเครื่องหมายต่างๆบนโน๊ตของคุณได้ด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่มีให้ เช่นปากกา ไฮไลท์ กล่องข้อความ รูปภาพ
• สามารถแชร์และเปิดโน้ตของคุณจากบริการ cloud storage ต่างๆ เช่น googledocs dropbox และอีกหลายๆบริการ
• เพิ่มโน้ตของคุณในแต่ละหน้าได้หลายรูปแบบ เช่นกระดาษเปล่า กระดาษลายเส้น สมุดกราฟ หน้าเว็บ หรือแฟ้มข้อมูลต่างๆ

และที่สำคัญที่สุดก็คือ โหลดฟรีครับ Free  !!

สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store หรือคลิก Download

Evi คู่ปรับใหม่ของ Siri

คุณ Siri ครับ คุณเจอคู่แข่งคนใหม่แล้วครับ นามของเธอคือ Evi

Evi สร้างขึ้นโดย True Knowledge และใช้ระบบการรับรู้โดยการฟังเสียงและนำมาประมวลคำตอบในรูปแบบ Nuance-based เช่นเดียวกับคุณ Siri ของ Apple  และที่สำคัญ น้อง Evi สามารถใช้ได้กับ iPhone ทุกรุ่น และแถมยังพัฒนาลงระบบ Android อีกด้วย

สิ่งที่แตกต่างจากระบบ search engine ทั่วไปที่ค้นหาเพียงสิ่งที่ตรงกับคำที่คุณค้น และแสดงผลเป็นรายการ website ขึ้นมา ซึ่ง Evi สามารถเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการจะรู้จริงๆและเรียนรู้ในสิ่งที่คุณต้องการได้ อย่างเช่นถ้าอยากรู้ธนาคารที่ใกล้ที่สุด ก็ไม่มีปัญหา หรืออยากหาร้านทาน dinner แต่ไม่รู้จะไปที่ไหน Evi ก็ช่วยคุณคิดได้ ยิ่งคุณคุยกับเธอมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งเรียนรู้มากขึ้น

มีเพียงไม่กี่อย่างที่ Evi ทำไม่ได้เหมือน Siri อย่างการทำงานร่วมกับ app ต่างๆที่ Apple มีมาให้ เช่น คุณจะไม่สามารถตั้งให้ Evi เตือนกำหนดการในปฏิทินของคุณ  แต่แค่นั้นก็ไม่ได้แปลว่า Evi จะพ่ายแพ้ต่อ Siri ครับ ผู้ที่ได้ใช้งานแล้วหลายท่านเชื่อว่า Evi มีความฉลาดกว่าในหลายๆเรื่องครับ
อย่างมีผู้ทดสอบได้ติดตั้ง Evi ลงใน iPhone 4S แล้ว ป้อนคำถาม

"How do I make apple pie?" (ฉันจะทำพายแอปเปิ้ลยังไง)
Siri ไม่สามารถตอบได้ตรงคำถามและยังบอกให้คุณลองค้นหาจาก web
Evi สามารถแสดงรายการตำราการทำพร้อมแสดง link ให้คุณได้ทันที

"Who was President when Queen Elizabeth II was born" (ใครคือประธานาธิปดีตอนที่พระนาง Queen Elizabet ที่ 2 ประสูติ)
Siri ตอบไม่ได้และแสดงรายการ search ข้อมูลจาก web มาให้ดู
Evi สามารถบอกได้ว่า Queen Elizabeth ที่ 2 คือใคร นางประสูติเมื่อไหร่ และยังเปรียบเทียบกับข้อมูลของประธานาธิปดีสหรัฐอเมริกาที่ดำรงตำแหน่งในช่วงนั้นได้ด้วย เจ๋งมั้ยล่ะครับ

ข้อดีที่เหมือนกับ Siri คือ Evi สามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและความต้องการของคุณเพื่อที่จะเสนอคำตอบที่ดีขึ้นในครั้งต่อไป
สำหรับเพื่อนๆชาวไทยอย่างเราๆ ก่อนอื่นคงต้องฝึกสำเนียงสปี๊คอิงลิชกันก่อนครับ ไม่งั้นทั้งคุณ Evi และคุณ Siri คงฟังแล้วงงกันทั้งคู่แหละครับ แล้วจะไปโบ้ยหาว่าพวกเธอฟังเราไม่รู้เรื่องไม่ได้นะครับ ^^

ดาวน์โหลดเพียง $0.99 ที่ App Store ครับ  [Download]


ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.cultofmac.com

ระวัง web หลอกลวงเอา Apple ID เราไปใช้!!

เตือนเพื่อนๆระวังเว็บหลอกลวงที่จะดักจับ Apple ID และ password ของเราไปนะครับ โดยเว็บนี้ผมเห็นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว (2011) แต่ ณ ปัจจุบันก็ยังเห็นมีอยู่ครับ 

โดยสิ่งที่จะเป็นตัวล่อให้เราเข้าไปติดกับก็คือ การประกาศตาม webboard ต่างๆ ประมาณว่า "Apple แจกกิฟต์การ์ดฟรี 1 เหรียญ สำหรับลูกค้าที่มี Apple ID เอาไว้ซื้อ App" โดยให้เราไปลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ ซึ่งฟังดูน่าเชื่อถือมากครับ 

หน้าตาเว็บจะเป็นแบบนี้ครับ

ซึ่งดูจาก address แล้วจะเห็นว่าเป็น http://apple.orgfree.com/store.php ซึ่งไม่ใช่ web ของ apple แน่นอนครับ ถึงชื่อจะคล้ายๆ ส่วนหน้าตาทำออกมาค่อนข้างเหมือนของ Apple จริงๆครับ โดย link ต่างๆในหน้านี้จะเข้าไปยังเว็บไซด์จริงๆของ Apple แต่ไอ้ช่องกรอก Apple ID กับ Password นี่แหละครับตัวดี โดยหากกรอกเข้าไปแล้วกด sign in เมื่อไหร่ ไม่ว่าคุณจะกรอกถูกหรือไม่ถูกก็จะเข้ามายังหน้าเดิมครับพร้อมกับข้อความแจ้งว่า   Your Apple ID or password was entered incorrectly.  หมายถึง Apple ID หรือ Password ของคุณไม่ถูกต้องครับ ทำให้คุณอาจจะคิดว่าคุณคงกรอกผิดจริงๆ แล้วก็กรอกซ้ำเข้าไปใหม่ซ้ำอีกๆ จนเลิกไปเอง หากคุณไม่เอะใจอะไร ก็คือ เสร็จมันแล้วครับ ข้อมูล Apple ID และรหัสของคุณอาจจะถูกเก็บข้อมูลเอาไว้เรียบร้อยแล้วครับ ยิ่งถ้ากรอกซ้ำหลายๆรอบยิ่งเป็นการยืนยันรหัสของคุณไปในตัวอีกครับ

ฉะนั้นใครได้อ่านแล้วช่วยกันเตือนเพื่อนๆด้วยนะครับ หรือใครที่พลาดไปแล้วให้รีบเข้าไปเปลี่ยน Password ของ Apple ID ทันทีครับ เพราะหาก Apple ID ของคุณมีข้อมูลบัตรเครดิต ผุ้ไม่หวังดีสามารถเอารหัสของคุณไปใช้ซื้อ App หรือสินค้าต่างๆของ Apple ได้สบายเลยล่ะครับ

Path โซเชียลเน็ตเวิร์คที่น่าจับตามอง

Path เป็น Application ประเภท Social Network อีกตัวลักษณะคล้าย Facebook แบบ Timeline แต่มีขนาดเล็กกว่าเนื่องจาก Path ยอมให้เรามีเพื่อนได้แค่ 150 คนเท่านั้น และคนที่จะมาเห็น path ของเรานั้นต้องเป็นเพื่อนก่อนเท่านั้น จึงจะเข้ามาดูข้อมูลต่างๆของเราได้ เพราะเหตุนี้ Path จึงค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า facebook

หน้าตาของ Pathด้านบนสุดจะเป็นรูป Cover ใหญ่ๆ คล้ายFacebook timelineแล้วมี icon กลมๆเล็กๆเป็นหน้าเรา
สามารถ share รูปภาพ/วิดีโอ , เพื่อนที่อยู่กับเรา ,สถานที่ ,เพลงที่ชอบ , สถานะ 
และเวลาเข้านอน หรือ ตื่นนอน

จุดเด่นของpath น่าจะอยู่ที่การ Share ภาพที่มีแต่งภาพในลักษณะต่างๆคล้าย instagram โดยไม่ต้องตัดครอบ หรือย่อภาพ อีกทั้งการแสดงความชอบต่างๆเหมือนกด like ใน Facebook นั้น Path จะใช้ไอคอนน่ารักๆแทน จุดนี้เลยทำให้ครองใจใครหลายคนเลยทีเดียว

ในการเปลี่ยนรูป Cover ต่างๆก็ง่ายเพียงแค่กดไปที่ Cover ก็สามารถเปลี่ยนได้ทันที ซึ่งเป็นรูปแบบที่ง่ายทันสมัย และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า Facebook จึงทำให้ path เข้ามาเป็น Social network ตัวใหม่ที่น่าจับตามอง

ดาวน์โหลด Path ได้ที่ App Store ครับ

ขอขอบคุณรีวิวจากคุณ YingTiida Wayuwan Ci แฟนคลับ Apple Thai Info ครับ

iTunes U แหล่งความรู้ทั่วโลกอยู่ในมือคุณ

แอพพลิเคชั่นตัวใหม่ที่ Apple ได้ปล่อยออกมา นั่นคือ iTunes U ซึ่งจริงๆ แล้ว iTunes U มีมานานแล้วโดยรวมอยู่ในโปรแกรม iTunes  หลายคนอาจยังไม่รู้จัก iTunes U ว่ามันคืออะไร ซึ่งมันก็คือโปรแกรมที่ให้เราสามารถเข้าไปเรียนร่ำเรียนวิชาความรู้ต่างๆจากมหาวิทยาลัยชั้นนำและจากโรงเรียนสถานศึกษาต่างๆทั่วโลก มารวมอยู่ในนี้ครับ โดยนำเสนอในรูปแบบของหนังสือ, เสียง, หรือวีดีโอ รวมถึงการบ้าน assignment ต่างๆมากกว่า 500,000 รายการจากหลายพันวิชา ให้คุณได้ศึกษาหาความรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาบน iPhone iPad iPodTouch ได้ฟรีๆ

ที่นี้เรามาดูหน้าตาของเจ้า iTunes U ตัวนี้ดีกว่าว่ามีหน้าตาอย่างไร... 
โดยเมื่อเปิดเข้ามา จะบอกให้เราเชื่อมต่อเข้ากับ iTunes store โดยภายในจะมีแคดาล็อกจัดเป็นหมวดหมู่ ง่ายต่อการค้นหา และเราสามารถโหลดเก็บไว้ได้ครับ 

ยกตัวอย่างเช่น ช่วงนี้เทรนด์ภาษาจีนกำลังมาแรง ควรศึกษาไว้ใช้ในการทำงานและติดต่อธุรกิจ ผมก็เข้าลงคอร์สภาษาจีนเลยครับ มีให้เลือกมากมาย

จัดได้ว่าเป็นแอพพลิเคชั่นที่สนับสนุนการศึกษาได้อย่างดีเลยทีเดียวครับ และคอยจับตาดูได้เลยครับว่าอีกไม่นานระบบการศึกษาบ้านเราและทั่วโลกจะเปลี่ยนไป เหมือนกับที่ Apple ได้เปลี่ยนหลายๆวิถีชิวิตบนโลกใบนี้อีกหรือไม่ครับ 

หากจะใช้ iTunes U 

ติดตั้งบน iPhone ,iPad หรือ iPod Touch ที่ใช้ iOS 5
มี Apple ID ที่ใช้ใน iTunes Store ได้
หากต้องการที่จะ Sync กับคอมพิวเตอร์ ต้องติดตั้ง iTunes 10.5.3 ขึ้นไป


อย่าลืมติดตั้งใช้งานร่วมกับ iBooks 2 ด้วยนะครับ

ดาวน์โหลดได้ที่ App Store 

คลิกดาวน์โหลด iTunes U

คลิกดาวน์โหลด iBooks

ต้อนรับเทศกาลตรุษจีนกันด้วย Chinese New Year Apps

ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไซ้ Apple Thai Info ขอต้อนรับเทศกาลตรุษจีนช่วงนี้กับการรวมมิตร Application น่ารักๆเกี่ยวกับวันตรุษจีน บน iPhone สำหรับใช้เพิ่มสีสันและความสุขรับตรุษจีนกันครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาดูกันเลยครับ

响炮挥春 Lucky Words

เริ่มต้อนรับวันตรุษจีนกันด้วยเสียงประทัด เมื่อเรากดที่พวงประทัด ประทัดจะระเบิด และเมื่อหมดเสียงประทัดลงจะปรากฏเป็นคำอวยพรปีใหม่จีน

 

Fire Cracker 

นอกจากมีเสียงประทัดแล้วก็ต้องมีเสียงกลองเชิดสิงโตจะได้ครบสูตร โดยเมื่อเราไปสัมผัสที่ประทัดจนไฟติดจะระเบิดมาเป็นอักษรสวัสดีปีใหม่และเสียงเชิดสิงโต ตุ้งแช่ ตุ้งแช่

เมื่อเล่นสนุกกับเสียงต่างๆแล้ว คราวนี้มาทำการ์ดอวยพรสวยๆแล้วส่งหรือแชร์ให้เพื่อนๆ คุณพ่อคุณแม่ หรือญาติพี่น้องได้อย่างง่ายๆ ด้วยแอ็พเหล่านี้ครับ

Scrapbox CNY

ใช้งานง่ายๆ โดยการเลือกพื้นหลัง ใส่รูปตกแต่งเช่น มังกร สิงโต ปลา ดอกไม้ ประทัด อักษรจีน และสามารถเขียนด้วยลายมือเป็นแผ่นอวยพรสวยๆได้ด้วย

Chinese New Year Greeting Cards

อีกโปรแกรมหนึ่งซึ่งสร้างการ์ดอวยพรสวยๆได้ไม่แพ้กัน ครับ อันนี้จะเน้นการนำภาพถ่ายมาทำเป็นการ์ดอวยพรครับ

แอ็พที่แนะนำเหล่านี้ เพื่อนๆสามารถโหลดได้ฟรีที่ App Store ครับ
หรือคลิกที่ชื่อด้านล่างนี้เลยครับ

• 响炮挥春 Lucky Words
• Fire Cracker 
• Scrapbox CNY
• Chinese New Year Greeting Cards

เพื่อนๆท่านใดมีแอ็พดีๆมาแนะนำเพิ่มเติมก็มาแชร์กันได้นะครับ สุดท้ายนี้ก็ขอกล่าวสวัสดีปีใหม่อีกครั้งครับ ขอให้เพื่อนๆชาว Apple Thai Info และท่านผู้อ่านทุกท่านมีความมั่งมีศรีสุข รวยเงิน รวยทองเฮง เฮง เฮง กันถ้วนหน้านะครับ ^^

ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ Apple Mac iPhone iPad ได้ทาง   facebook.com/AppleThaiInfo

วิธีการตรวจสอบการรับประกันผลิตภัณฑ์ของ Apple

ท่านที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ไม่ว่าจะเป็น Macbook , iMac , iPhone ,iPad , iPod หรืออุปกรณ์อื่นๆ ทราบมั้ยครับว่าอุปกรณ์ที่คุณซื้อมาจะได้รับการรับประกันจาก Apple จนถึงวันไหน หรือว่าหมดประกันไปแล้ว  เนื่องจาก Apple ไม่ได้มีใบรับประกันมาให้เราตอนซื้อ 

แต่ไม่ต้องกังวลครับ เราสามารถเข้าไปตรวจสอบดูเองได้ตลอดเวลา โดยเข้าไปที่ https://selfsolve.apple.com/  หรือถ้ากลัวจำไม่ได้ก็เข้าทางเว็บไซต์ของ Apple ที่  www.apple.com แล้วไปที่หน้า Support  จะมีอยู่ส่วนหนึ่งที่เขียนว่า Self Service (รูปไขควง) 

มาเริ่มกันเลยครับ
https://selfsolve.apple.com/

โดยเมื่อเข้ามาแล้วจะพบกับช่องให้เรากรอกเลข Serial Number ของอุปกรณ์ของเรา

หลายท่านคงเกิดคำถามว่า แล้วเลข Serial Number ของเครื่องเราจะเอามาจากไหน ?

ครับ ถ้าอยากรู้วิธีอย่างละเอียดให้คลิกไปดูที่ http://support.apple.com/kb/HT1349

แต่สำหรับท่านผู้อ่าน ผมขอสรุปง่ายๆให้ครับ ว่า 

ท่านที่ใช้ iPhone iPad iPodTouch ให้เข้าไปดูที่ Settings > General > About > Serial Number

ส่วนท่านที่ใช้ Mac OS X ไม่ว่าจะเป็น iMac หรือ Macbook
- คลิกที่ เมนูรูป Apple แล้วเลือกที่ About this Mac 
- คลิกที่ข้อความที่บอก version (อยู่ใต้ Mac OS X เช่น Version 10.7.2) คลิกครั้งแรก version จะเปลี่ยนเป็น Build คลิกอีกครั้งจะเป็น Serial Number ครับ

ถ้าเอาให้ง่ายกว่านั้นหรือกรณีไม่สามารถเปิดเครื่องได้ สำหรับ iPad และ Macbook คือ พลิกมาดูด้านหลังเครื่องครับ 

แต่ถ้าเป็น iPhone จะอยู่ตรง ถาดใส่ SIM CARD 

เมื่อได้ Serial Number แล้ว ให้กรอกลงไปในช่องเลยครับ แล้วกด Continue

จะแสดงข้อมูลการรับประกันอุปกรณ์ของเราครับ

ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเพื่อนๆที่ซื้อเครื่องมือสองแล้วผู้ขายอ้างว่ายังมีประกันเหลือ ให้ลองตรวจสอบกันดูก่อนซื้อนะครับ

ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ Apple Mac iPhone iPad ได้ทาง   facebook.com/AppleThaiInfo

เทคนิคการใช้งาน Open Links In Background บน Safari

เพื่อนๆหลายท่านอาจยังไม่ทราบว่าใน Safari บน iPhone หรือ iPod Touch ที่ใช้ iOS5  สามารถสั่งให้เปิดหน้าเว็บทิ้งเอาไว้ข้างหลังโดยที่เราไม่ต้องออกจากหน้าปัจจุบันที่เรากำลังดูอยู่ หรือที่เรียกกันว่า Open Links in Background

ซึ่งมีวิธีการง่ายๆดังนี้ครับ
1. เข้าไปที่ Settings ใน iPhone หรือ iPod Touch
2. เลือกที่ Safari

สร้างกรอบรูปสวยๆไม่เหมือนใครด้วย ArcFrame

วันนี้ขอนำเสนอ app ดีๆอีกตัวนะครับ สำหรับเพื่อนๆที่ชอบถ่ายรูปและแชร์รูป ArcFrame เป็น app ที่ทำให้คุณสามารถเลือกรูปภาพจากเครื่องของคุณมาจัดเรียงกันในกรอบรูปโค้งมนสวยงาม หลีกหนีความจำเจกับกรอบสี่เหลี่ยมเดิมๆ ยิ่งกว่านั้น คุณสามารถออกแบบกรอบรูปของคุณเองได้ ทั้งการวางเลย์เอาท์ ความหนาของกรอบรูป สี และลวดลายพื้นหลัง
ช่วงนี้ลดราคา จาก $0.99 มาแจกฟรีครับ Free!!
ลูกเล่นหลักๆของ ArcFrame

• มีเลย์เอาท์รูปแบบกรอบรูป 36 แบบ
• ใส่รูปได้มากสุด 4 รูป
• ปรับความโค้งมนของกรอบรูปได้ด้วย control points
• ปรับขนาดของรูปภาพได้ตามต้องการ
• ปรับความหนาของขอบได้
• ปรับระดับความมนของมุมภาพ
• เลือกสีพื้นหลังได้
• เลือกลวดลายพื้นหลังสวยๆได้ 30 แบบ
• สามารถนำรูปของคุณมาทำพื้นหลังได้
• ปรับความโปร่งใสของพื้นหลังได้
• เลือกรูปภาพจากรูปที่มีในเครื่องหรือจะถ่ายใหม่ก็ได้
• สามารถแชร์ไปยัง social network ได้ทั้ง Facebook ,Twitter ,Tumblr
• ส่งไปยัง Instagram ได้
• ใช้งานได้ทั้ง iPhone และ iPad

ลง App แล้วค้างที่ Waiting... ทำอย่างไรดี?

   เพื่อนๆคนไหนเคยเจอปัญหาตอนโหลดหรือ update app ต่างๆ ใน iPhone หรือ iPad แล้วค้างที่ข้อความ waiting... ไม่ยอมติดตั้งให้
 
   ขั้นแรกให้ดูก่อนครับว่ามันค้างจริงๆหรือเปล่า โดยการรอดูสักพัก เนื่องจากบาง app อาจใช้เวลาเชื่อมต่อกับ server ของ App Store นานนิดหน่อยครับ อาจใช้เวลาสัก 2-3 นาที ขึ้นกับความเร็วในการต่ออินเทอร์เน็ต แต่หากแน่ใจแล้วว่าค้างแน่ๆให้ทำขั้นตอนต่อไปเลยครับ

ตรวจดูรายการดาวน์โหลดในแอ็พ iTunes 
  เพิ่มเติมจากสมาชิกแฟนเพจท่านหนึ่งได้สอบถามมาว่า ลง App บน iPad แล้วมีอาการค้างที่ waiting ไม่ยอมติดตั้งสักที ทั้งที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตก็ปกติ หลังจากที่หาสาเหตุอยู่นานก็พบคำตอบว่า โปรแกรม iTunes บน iPad มีการดาวน์โหลดคลิป ดาวน์โหลดเพลงหรือพวก Podcast ค้างไว้ครับ  วิธีแก้คือไปยกเลิกการดาวน์โหลดพวกนั้นเสียก่อน ก็จะสามารถติดตั้ง App ต่างๆได้ตามปกติแล้วครับ

ถ้าไม่ใช่สาเหตุนี้ลองดูข้อต่อไปครับ

Restart เครื่อง
วิธีการ restart เครื่อง iPhone iPad และ iPod Touch มีขั้นตอนดังนี้ครับ
1. กดปุ่ม Power (Sleep/Wake) ค้างไว้จนขึ้นแถบเลื่อนสีแดง "slide to power off"
2. เลื่อนแถบสีแดงเพื่อปิดเครื่อง รอสักครู่เครื่องจะดับ
3. เปิดเครื่อง โดยกดปุ่ม Power (Sleep/Wake) ค้างไว้จนขึ้น logo แอปเปิ้ล แล้วรอจนเครื่องพร้อมใช้งาน

ถ้าไม่มีปัญหาอะไร app ที่เคยค้างจะหายไปครับ จากนั้นก็ไปโหลดใหม่ได้ที่ App Store ครับ
หรือใครเคยโหลดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์แล้ว ก็สามารถ sync กับ iTunes ได้ครับ โดยเสียบสาย USB ต่อเครื่องของคุณเข้าคอมพิวเตอร์ครับ แล้วเปิดโปรแกรม iTunes ขึ้นมา
1. เลือกไปที่ iPhone หรือ iPad ของคุณ ในหัวข้อ Device ด้านซ้ายมือ
2. เลือกหัวข้อ Apps ด้านบน เพื่อเปิดหน้า Apps ขึ้นมา จากนั้นให้ติ๊กที่ช่อง Sync Apps
3. เลือก App ที่คุณต้องการจะ sync จากคอลัมน์ด้านซ้าย
4. กดปุ่ม Apply เพื่อทำการ Sync

  หากยังแก้ปัญหาไม่ได้ ให้ลอง ลบแอพทั้งหมดแล้วลงใหม่ (วิธีนี้อาจใช้เวลานานหากว่า app ของคุณมีเยอะครับ)
โดยเข้าไปที่ iTunes ตรงหัวข้อ Apps (เหมือนขั้นตอนที่แล้ว)
1. จากนั้นให้ติ๊กเครื่องหมายถูกออกจากช่อง Sync Apps แล้วกด Apply เพื่อลบ App ทั้งหมดออกจากเครื่อง
2. เมื่อเสร็จแล้วให้ติ๊กที่ช่อง Sync Apps อีกครั้ง แล้วเลือก app ที่ต้องการจะ sync แล้วกด Apply เพื่อติดตั้งใหม่

รอจนเสร็จก็จะสามารถใช้งาน app ได้ครับ


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ipadhelp.com

คู่มือการใช้งาน iPhone และ iPad

   เพื่อนๆที่ซื้อ iPhone หรือ iPad มาแล้ว บางคนอาจจะตั้งคำถามว่า "ทำไมไม่เห็นมีคู่มือการใช้งานให้เราดูเลย?" แน่นอนครับ แอปเปิ้ลเค้าไม่ปล่อยให้ลูกค้าต้องงมหาวิธีใช้งานกันเองหรอกครับ โดยคู่มือการใช้งาน iPad และ iPhone นั้น มีให้เราดาวน์โหลดได้ฟรี และยังสามารถดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในเครื่องของคุณได้โดยตรงผ่านแอ็พ iBooks โดยวิธีการง่ายๆ ดังนี้ครับ

1. เปิด app iBooks  (หากใครไม่มี app นี้ สามารถไปดาวน์โหลดได้ฟรีที่ App Store)
2. กดปุ่ม store ตรงมุมด้านบน เพื่อเข้าสู่ iTunes Book Store
3. ในช่อง search พิมพ์คำว่า iPhone User Guide (หรือ iPad User Guide)
4. จะพบกับหนังสือ iPhone User Guide for iOS 5 และ  iPhone User Guide for iOS 4.2 and 4.3 (หากค้นหา iPad ก็จะพบคู่มือของ iPad)
5. กดที่ปุ่ม FREE เพื่อดาวน์โหลดมาไว้ในเครื่องได้เลยครับ

เป็นคู่มือภาษาอังกฤษนะครับ แต่ว่าดูเข้าใจได้ไม่ยากครับ
โดยในคู่มือนี้จะอธีบายวิธีการใช้งานและฟีเจอร์ต่างๆพร้อมรูปภาพประกอบได้ดีมากครับ และมีเทคนิคต่างๆมากมายที่เพื่อนๆอาจจะยังไม่รู้ ขอย้ำเลยครับว่ามีเยอะ

นอกจากจะติดตั้งใน iBooks แล้ว ยังสามารถดาวน์โหลดมาอ่านในรูปแบบ PDF ในคอมพิวเตอร์ก็ได้ครับ
http://support.apple.com/manuals/

มีคู่มือของ iPhone iPad และยังมีของ iPod Macbook  iMac ด้วยครับ

Update (23 ม.ค. 55) 

สำหรับคู่มือฉบับภาษาไทยสามารถดาวน์โหลดในรูปแบบ PDF ได้ที่

http://support.apple.com/th_TH/manuals/

  ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ Apple Mac iPhone iPad ได้ทาง   facebook.com/AppleThaiInfo

สร้างสไลด์โชว์ง่ายๆใน iPhone ด้วย Roxio PhotoShow

 หลังจากหยุดยาวปีใหม่ เชื่อเลยว่าหลายคนต้องมีภาพประทับใจตามสถานที่ต่างๆหรือคลิป VDO เจ๋งๆในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาแน่นอน วันนี้ทาง Apple Thai Info เลยนำแอพ Slide show ที่ช่วยให้เพื่อนๆสร้าง slide เจ๋งๆ ลงยูทูปหรือแชร์ให้เพื่อนๆได้ง่ายๆใน 3 ขั้นตอนเพียงเลือก แต่ง แชร์ ด้วย Roxio PhotoShow ง่ายๆแบบนี้ลองมาดูที่ละขั้นเลยดีกว่า

1) เลือก (Select Source)--> เราสามารถรูปและวีดีโอจากหลายช่องทางไม่ว่าจะถ่ายใหม่ Camera roll หรือแม้แต่ใน Social network ของเราได้เลย 

 



2) แต่ง (Customize) -->เมื่อเลือกได้แล้วเราสามารถจัดวางตำแหน่งของภาพ การเปลี่ยนสไลด์ เวลาหรือแทรกดนตรีประกอบได้ง่ายๆเลย^.^

3) แชร์ (Share) --> เมื่อเราจัด Slide ได้ตามที่ต้องการแล้วสามารถกดแชร์ได้ง่ายๆหลากหลายช่องทางด้วยกันไม่ว่าจะ Facebook ,YouTube ,Email หรือ Save ลงเครื่องได้เลย

อ้อแล้วเรายังสามารถรีวิวดูก่อนแชร์และบันทึกไว้ได้อีกด้วย

  ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ Apple Mac iPhone iPad ได้ทาง   facebook.com/AppleThaiInfo