วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

iPad รุ่นใหม่ มาแน่ 7 มีนาคมนี้




“We have something you really have to see. And touch.”  คำเชื้อเชิญที่มาพร้อมกับรูปภาพนิ้วจิ้มบนไอคอน Calendar บนจอ iPad
ภาพที่เห็นนี้คือบัตรเชิญเข้าร่วมงานที่ Yerba Buena Center  for the Arts ใน San Francisco ในวันที่ 7 มีนาคมนี้ เวลา 10:00 น. ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่ที่ Apple ใช้จัดงานเปิดตัวหรือแสดงผลิตภัณฑ์ใหม่หลายครั้งในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการเปิดตัว iPad และ iPad 2 และครั้งนี้ แน่นอนว่าต้องเป็น iPad รุ่นใหม่แน่นอน
และจากข้อมูลที่ผ่านมาของ iPad รุ่นใหม่นี้ (ซึ่งหนักไปทางข่าวลือซะมาก) แทบจะเชื่อได้ว่าสิ่งที่จะมี คือ Retina display ซึ่งมีความละเอียดเ็ป็นสองเท่าของรุ่นปัจจุบัน และกา่รพัฒนากล้อง รวมถึงใช้ processor รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเป็น A6
และสิ่งหนึ่งที่ Apple เก็บอุบไว้ คือการปรับปรุงพัฒนาด้านซอฟท์แวร์ซึ่งอาจมาพร้อมกับ iPad รุ่นใหม่นี้ ซึ่งที่จับตามองกันมากสุดคือ Siri ผู้ช่วยส่วนตัวที่ออกมาพร้อมกับ iPhone 4S อาจจะมารวมอยู่ใน iPad รุ่นนี้ด้วย และแน่นอน ถ้า Siri มา หมายถึงการพัฒนาหน่วยประมวลผลภายในที่รองรับการประมวลผลและวิเคราะห์เสียงรวมถึงไมโครโฟนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
และนอกจากนี้ เมื่อบัตรเชิญนี้ออกมายังสาธารณชน ก็มีการวิเคราะห์วิจารณ์กันอย่างมากจากภาพที่เห็น คือ iPad รุ่นใหม่จะไม่มีปุ่ม Home
เรื่องจริงจะออกมาเป็นเช่นไร ติดตามกันอย่างใกล้ชิดครับ ทาง Apple Thai Info จะนำเสนอให้ท่านผู้อ่านเป็นระยะๆครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.macworld.com

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เคยใช้ Voice Control ใน iPhone กันหรือยัง






เพื่อนๆคงทราบกันดีถึงคุณสมบัติสุดเด่นของ iPhone 4S ที่มาพร้อมกับผู้ช่วยส่วนตัว ที่ชื่อคุณ SIRI โดยเราสามารถสั่งการ พูดคุย สอบถามข้อมูลกับ SIRI ได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่สำหรับคนที่ใช้ iPhone รุ่นก่อนหน้านี้เช่น iPhone 3GS และ iPhone 4 หรือแม้แต่ iPod Touch ก็อย่าเพิ่งน้อยใจครับ คุณสามารถลองใช้คุณสมบัติการสั่งงานด้วยเสียงที่เรียกว่า Voice Control ที่มีอยู่ในเครื่องได้ครับ โดยคุณสมบัตินี้มีมาตั้งแต่ iOS 4 ครับ

วิธีการเปิดใช้งาน Voice Control
กดปุ่ม HOME ค้างไว้ หรือ กดปุ่มตรงกลางสายหูฟัง (ระหว่าง + และ - ) ค้างไว้ จนกว่า Voice Control จะแสดงขึ้นมาบนหน้าจอ คุณจะได้ยินเสียง "ปี๊บ"

ทีนี้มาดูกันครับว่าคุณสามารถสั่งอะไรเจ้า Voice Control ได้บ้าง

คำสั่งเกี่ยวกับการโทรศัพท์
อันนี้ได้เฉพาะ iPhone นะครับ iPod Touch โทรไม่ได้จ้า

“Call” หรือ “dial” แล้วตามด้วยชื่อใน contacts จะเป็นชื่อจริงหรือชื่อเล่นที่เราบันทึกไว้ก็ได้ครับ และสามารถพ่วงท้ายด้วยประเภทของหมายเลขที่เราบันทึกเช่น  “home”, “work”, “mobile”.
ตัวอย่าง : “Call Mick” หรือ  “Dial Mum”.

“Call”  หรือ  “Dial” แล้วตามด้วยเบอร์โทรศัพท์
ตัวอย่าง : “Dial 0891234567″ (พูดภาษาอังกฤษนะครับ อย่าไปพูดว่า ศูนย์แปดเก้า...  iPhone ฟังไม่ออกครับ ^^ )

“Facetime” แล้วตามด้วยรายชื่อที่เราต้องการ Facetime ด้วย

ตัวอย่าง : “Facetime Joy″




เมื่อเราพูดจบ เครื่องจะพูดทวนคำสั่งเราเพื่อให้เราตรวจสอบว่าใช่เบอร์ที่เราต้องการโทรหรือไม่
ถ้าใช่ก็ให้รอเฉยๆครับ เดี๋ยวระบบจะโทรออกให้เราเอง
แต่ถ้าไม่ใช่ ให้คุณพูดว่า  “not that one” หรือ “wrong” หรือ “nope” หรือ  “no” หรือ “not that” 


คำสั่งเกี่ยวกับเพลง

สั่งให้เปิดเพลง ให้พูดว่า  “play” หรือ “play music”


ให้เล่นเพลงเฉพาะ playlist ที่เราระบุ
ให้พูดว่า “play playlist” แล้วตามด้วยชื่อ playlist
ตัวอย่าง :  “Play playlist Love songs”.

ให้เล่นเพลงเฉพาะอัลบั้มที่เราระบุ
Play from a specific album
ให้พูดว่า “play album”  แล้วตามด้วยชื่ออัลบั้ม
ตัวอย่าง : “Play album Room39”.

ให้เล่นเพลงเฉพาะศิลปินที่เราระบุ
ให้พูดว่า “play artist” แล้วตามด้วยชื่อศิลปิน หรือพูดว่า “Play songs by” แล้วตามด้วยชื่อศิลปิน
ตัวอย่าง : “Play artist Bodyslam”.

สั่งให้หยุดเพลง  ให้พูดว่า “pause” หรือ “pause music”.
ข้ามไปเพลงต่อไป ให้พูดว่า “next song”. หรือพูดสั้นๆว่า “next”
ย้อนกลับไปเพลงก่อนหน้า ให้พูดว่า “previous song”
เล่นเพลงแบบสุ่ม Shffule ให้พูดว่า “shuffle”

ใช้ฟีเจอร์ Genius ในการเล่นเพลงที่คล้ายๆกัน ให้พูดว่า  “Genius” หรือ “play more like this” หรือ “play more songs like this”
สอบถามข้อมูลของเพลงที่กำลังเล่น
พูดว่า “what’s playing” หรืออยากรู้ข้อมูลเจาะจงก็สามารถสั่งได้ เช่น  “what song is this”, “who sings this song” หรือ “who is this song by”




คำสั่งอื่นๆ
ถามเวลา ให้พูดว่า  “what is the time” หรือ “what time is it”
ยกเลิก Voice Control ให้พูดว่า “cancel”
ขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการใช้งาน ให้พูดว่า “help”

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://atmac.org

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ทำอย่างไรไม่ให้หลงกลไปซื้อ App ปลอม



ช่วงนี้ท่านผู้อ่านอาจเคยได้ยินข่าวว่า Apple ได้ทำการไล่จัดการถอด App ปลอม ออกจาก App Store เป็นระยะๆ โดยที่ App ปลอมเหล่านี้ใช้วิธีการบางอย่างในการผ่านกระบวนการตรวจสอบของ Apple มาได้ แต่แทนที่เราจะรอให้ Apple ดูแลป้องกันให้เราฝ่ายเดียว ผู้ใช้ app อย่างเราๆ ก็ควรมาศึกษาวิธีการป้องกันเบื้องต้นกันก่อนที่เราจะกดปุ่ม "BUY APP" ครับ จะได้ไม่พลาดไปโหลด app ที่เราไม่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น app ปลอม ,app เลียนแบบ และ app ไม่มีคุณภาพ ลองอ่านไว้เป็นความรู้นะครับ

อ่านคำอธิบายให้ละเอียด

คำอธิบาย App หรือที่เรียกว่า Description นั้นนับว่าเป็นจุดสังเกตได้ถึงคุณภาพของ App นั้นๆ ถ้าอ่านแล้วรู้สึกได้ว่าคำอธิบายเขียนออกมาไม่ค่อยรู้เรื่อง ดูไม่เป็นมืออาชีพนักก็ให้ห่างๆ app ตัวนี้ไว้เถอะครับ เพราะมันสื่อได้ว่าผู้พัฒนา app นี้ไม่ได้ใส่ใจนักที่จะเขียนคำอธิบายให้เราอ่าน

อ่านคอมเม้นท์ก่อน

ลูกค้าที่เคยโหลด app นี้ไปแล้วจะมาแบ่งปันความคิดเห็น มาติชม ทิ้งเอาไว้ในส่วนของ comment ทำให้ผู้ที่จะตัดสินใจมีข้อมูลเพื่อชั่งใจในข้อดีข้อเสียได้ ยิ่งมีหลายๆความคิดเห็นยิ่งดีครับ อีกอย่างจะมีการให้ rating ด้วยครับ แต่หากไม่มีเลยก็อย่าเพิ่งเหมาว่าเป็น app ไม่ดีนะครับ ให้ลองตรวจสอบในจุดอื่นๆต่อครับ


ลองค้นหาดูให้ทั่วอีกทีใน App Store

คุณแน่ใจหรือยังว่าคุณได้ค้นหาใน App Store ดีแล้ว App ปลอมมักจะเลียนแบบชื่อและไอคอนให้เหมือนกับต้นฉบับแล้วเอามาเปลี่ยนเล็กๆน้อยๆเท่านั้น การสะกดชื่อผิดก็อาจจะไปเจอของปลอมที่ตั้งชื่อมาดักไว้อย่างเช่น "Angry Birdy" ลองยอมเสียเวลานิดหน่อยเพื่อเช็คดูให้ละเอียดเสียหน่อยนะครับ

ผู้พัฒนานี้เคยทำ app อะไรมาก่อนบ้าง?

ถ้าคุณเจอ app ที่คุณต้องการจะซื้อแล้ว ลองเหลือบไปดูข้อมูลประวัติของผู้พัฒนาapp นี้ (developer) สักหน่อยนะครับ  คนเขียน app เก่งๆที่มีประสบการณ์มากๆเราจะสังเกตได้ว่าจะมีหลาย app บน App Store ที่เขาพัฒนาขึ้น โดยหากดูจาก iTunes จะเห็นรายการ app ต่างๆของผู้พัฒนาอยู่ด้านล่างซ้ายมือครับ


พวกผู้พัฒนาเจ้าเล่ห์บางคนมักจะปล่อย app หลอกๆออกมาแล้วสามารถหลบการตรวจจับของ Apple ได้ โดยเมื่อเหยื่อที่ติดกับดาวน์โหลดไปประมาณพันกว่ารายก็จะปิดหนีหายไปจาก App Store เลย ยิ่งพวก $0.99 นี่ตัวดีเลยครับ แค่โหลดไปไม่กี่ร้อยคน ก็สามารถถอนทุนคืนได้แล้วครับ (ทุนที่ว่าคือค่าธรรมเนียมที่ผู้พัฒนา app จะต้องจ่ายให้ Apple ครับ) และก็จะสร้างบัญชีใหม่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ หลอกลวงชาวบ้านต่อไปครับ
อีกอย่างที่จะสังเกตได้คือ หากเป็น app ที่มีคุณภาพ นักพัฒนา app จะค่อนข้างใช้เวลานานกว่าจะทำออกมาให้เราได้โหลดกัน หากเจอคนที่ปล่อย app ออกมามากและถี่เกินไปก็ให้ระวังไว้ด้วยครับ (แต่ก็ต้องดูแต่ละ app นะครับ บางทีเป็น app ง่ายๆ เช่น wallpaper หรือเกมเล็กๆ นักพัฒนาก็สามารถใช้เวลาทำเพียงสั้นๆได้ครับ)

app นี้ update ล่าสุดเมื่อไหร่?

เมื่อ app ผ่านการ approve จาก Apple เพื่อให้วางจำหน่ายบน App Store แล้ว พวกนักพัฒนาเจ้าเล่ห์ส่วนใหญ่มักจะไม่มีการ update เนื่องจากทำมาเพื่อหลอกเอาเงินอย่างเดียว ไม่สนใจที่จะปรับปรุง app อีกแล้ว ดังนั้นก่อนคุณจะซื้อ ลองติดตั้ง app อย่าง AppShopper เพื่อนสังเกตดูประวัติการ update โปรแกรมและราคา ของ app นั้นๆด้วยครับ

ผู้พัฒนา app มีตัวตนจริงมั้ย?

นักพัฒนา app ที่ระบุ support link ไว้ใน iTunes เมื่อผู้ใช้คลิกดู จะสามารถเปิดเข้าไปดู website ของผู้พัฒนาได้ นักพัฒนาตัวจริงเหล่านี้จะใส่ website ข้อมูลติดต่อ เช่น twitter facebook หรือ Google+ ของตนไว้ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ติดต่อสอบถามติชมได้ แต่หากคลิกเข้าไปดูแล้วไม่มีข้อมูล หรือ link เสีย ก็ต้องระวังเช่นกันครับ

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก internet

ถ้าคุณยังไม่แน่ใจ ลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก internet ครับ อาจสอบถามตามแหล่งข้อมูล ชุมชน online ต่างๆ เช่น Facebook Twitter อาจมีผู้ที่เคยใช้ app นี้มาให้ข้อมูลครับ (ลองมาโพสถามที่ www.facebook.com/AppleThaiInfo ก็ได้นะครับ)




ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : http://www.tuaw.com


วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Update รูปใน Contacts ง่ายๆด้วย Facebook Sync Contacts




    ท่านผู้อ่านทั้งหลายที่ใช้ iPhone และ Facebook อาจยังไม่ทราบว่ามีฟีเจอร์นี้อยู่ใน App Facebook ของ iPhone ด้วย ที่ผมจะพูดถึงก็คือวิธีการ Sync Contacts  หรือการนำข้อมูลเพื่อนใน Facebook ของเราเข้ามา update กับข้อมูลเพื่อนคนเดียวกันที่อยู่ในรายชื่อ Contacts ใน iPhone ครับ ข้อมูลที่ว่าก็จะประกอบไปด้วย รูปโปรไฟล์ email วันเกิด เบอร์โทร ซึ่งจะทำให้รูปจากโปรไฟล์ ของเพื่อนๆเราใน Facebook กลายมาเป็นรูปใน Contacts ได้ทันทีตลอดเวลา

มาดูวิธีกันเลยดีกว่าครับ เริ่มจากเปิดเข้า App Facebook ก่อน (ใครไม่มีไปดาวน์โหลดมาก่อนนะครับ)

1. เมื่อ login แล้ว เปิดหน้า Friends จากเมนู แล้วกดที่ลูกศรมุมบนขวาจะปรากฏป๊อบอัพเมนู ให้เรากดที่ Sync Contacts ครับ





2. กดเปิดปุ่ม Syncing ให้เป็น ON เพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้ครับ และหากจะให้แทนที่รูปเดิมที่เคยมีใน Contact ก็เปิดตรง Replace photos ให้เป็น ON ด้วยครับ เมื่อกดเปิดแล้ว เครื่องจะทำการค้นหาและ update ข้อมูล





เพียงเท่านี้เราก็ได้รูปสวยๆจากโปรไฟล์ของเพื่อนมาอยู่ใน Contact ของเราแล้ว และเมื่อเพื่อนเราเปลี่ยนภาพ Profile ใหม่ มันจะขึ้นมายัง Contacts ของเราด้วยครับ




นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาบัญชี Facebook จากรายชื่อ Contacts ได้อีกด้วยครับ โดยการใช้ฟีเจอร์ Find Friends





แต่ทั้งนี้ใน Contacts ของเราจะต้องมีข้อมูลต่างๆที่เพื่อนเราใช้เชื่อมกับ Facebook เช่น E-mail หรือเบอร์โทร จึงจะสามารถเชื่อมต่อกันได้นะครับ

วิวัฒนาการของ Mac OS X



เป็นเวลานับสิบปี ที่ระบบปฏิบัติการสำหรับเครื่องแม็คอินทอช OS X (อ่านว่า โอ-เอส-เท็น ไม่ใช่ โอ-เอส-เอ๊กซ์ นะครับ ^^) ได้ออกมาถึง 9 เวอร์ชั่น (รวมเวอร์ชั่นที่เป็น Public Beta) โดยวิวัฒนาการของแต่ละเวอร์ชั่นมีอะไรบ้าง มาดูกันครับ

OS X Public Beta

Mac OS X Public Beta
Public Beta (Build)1H39 September 13, 2000
Media: CD-Rom

ราคาเปิดตัว: $29.95 (US)

Mac OS X Public Beta (มีรหัสเรียกกันภายในว่า "Kodiak") เป็นรุ่น beta ของ Mac OS X Cheetahซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกหลังจากที่หลายคนรอคอยระบบปฏิบัติการเจเนเรชั่นใหม่ของ Apple มานาน ซึ่งรุ่นนี้เป็นเพียงรุ่นทดสอบและแน่นอนยังมีบั๊กหรือข้อผิดพลาดอยู่พอสมควร แต่ถึงกระนั้น Apple ก็ได้สร้างความประทับใจกับผู้ใช้ด้วยอินเทอร์เฟสที่สวยงามอย่าง Aqua หรือ Quartz  ในเวอร์ชั่นนี้ได้นำโลโก้ Apple มาอยู่ตรงกลางเมนูบาร์ ซึ่งได้รับการต่อว่าจากผู้ใช้จำนวนมาก Apple จึงได้ย้ายกลับไปมุมซ้ายของเมนูบาร์เหมือนเดิม
System Requirements:
PowerPC G3; original PowerBook G3 not supported, 128 MB of RAM, and 1.5 GB of hard disk space
About This Mac ของ Public Beta 

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Apple เปิดตัวเพจรูปแบบใหม่สำหรับแนะนำผู้สนใจเขียน App บนอุปกรณ์ iOS





ใครที่ยังไม่เคยทราบถึงวิธีการสร้าง app สำหรับอุปกรณ์ iOS เช่น iPhone หรือ iPad  แล้วอยากจะเริ่มหัด ส่วนใหญ่จะประสบปัญหาคือ ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เนื่องจาก Apple ค่อนข้างเข้มงวดว่า app ที่เขียนขึ้นมานั้นต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ตามที่กำหนด แต่ไม่ต้องกังวลแล้วครับ Apple ได้เสนอตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมสำหรับโปรแกรมเมอร์หน้าใหม่ครับ

โดย guide ชุดนี้ จะแนะนำเริ่มจากพื้นฐานของการพัฒนา app เช่น การติดตั้งโปรแกรม Xcode จาก Mac App Store และสามารถให้คุณสร้าง iOS app อย่างง่ายๆ และยังกล่าวถึงการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น ว่าใช้ภาษาใด เฟรมเวิร์คเป็นรูปแบบใด การออกแบบอินเทอร์เฟช และวิธีการนำ App ของคุณเข้าไปจำหน่ายบน App Store


คลิกดูได้ที่นี่ครับ


วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วิธีการใช้บัตรเดบิตซื้อ App






หลายคนเชื่อว่าหากต้องการซื้อ  App ต่างๆ ใน App Store นั้น จำเป็นต้องมีบัตรเครดิตก่อน ทำให้คนที่ไม่มีบัตรเครดิตบางท่านถอดใจ คิดว่าคงไม่มีทางซื้อได้เองแน่ๆ  วันนี้ทาง Apple Thai Info จึงขอนำเสนอเรื่องดีๆให้ได้รู้กัน นั่นก็คือ การใช้บัตร ATM ที่เป็น Dedit Card Visa หรือ MasterCard ซื้อ Application ต่างๆใน App Store โดยตอนนี้ที่สามารถใช้ได้แน่นอนมี 2 ธนาคารด้วยกันคือ ธนาคารกรุงเทพ และ กสิกรไทยครับ

ธนาคารกรุงเทพ 

เพียงท่านผู้อ่านมีบัตร ATM Debit Be1st และได้ทำการกำหนดวงเงินการซื้อสินค้าต่อวันเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถทำรายการซื้อได้เลยครับ ง่ายมั้ยล่ะครับ แต่หากยังไม่ได้กำหนดวงเงิน ให้ไปกำหนดได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 1333 ครับ

ธนาคารกสิกรไทย

ที่นี้มาดูขั้นตอนการสมัครการใช้งานสำหรับบัตรกสิกรไทยกันบ้าง อันนี้ต้องหาตู้ ATM ก่อนครับ
การสมัครใช้บริการ
1) เลือกเมนู “กองทุนรวม/สมัครบริการ/K-Mobile Banking/อื่นๆ ”
2) เลือกเมนู “บริการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตด้วยบัตรเดบิตกสิกรไทย”
3) เลือกเมนู “สมัครบริการ”  
4) ใส่หมายเลขโทรศัพท์มือถือ 10 หลัก [เพื่อใช้รับรหัสผ่านใช้ครั้งเดียว (OTP VbV : One Time Password Verified by VISA)
         และบริการ K-mAlert Debit Card Spending] แล้วกดปุ่ม “ตกลง”
5) อ่านเงื่อนไขและข้อตกลงการสมัครใช้บริการ แล้วกดปุ่ม “ตกลง”
6) รับใบบันทึกรายการ พร้อมรับ SMS ยืนยันการทำรายการสมัครบริการเสร็จสมบูรณ์
สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-8888888
เมื่อเปิดบริการกับทางธนาคารเรียบร้อยแล้ว คราวนี้เตรียมบัตรเดบิตของคุณมาถือไว้ครับ แล้วเปิด iPhone หรือ iPad เพื่อผูก Apple ID เข้ากับบัตรเดบิตของคุณกันได้เลย
อ้อ.. ใครยังไม่มี Apple ID ก็ไปสมัครก่อนนะครับ ไปอ่าน ที่นี่ ก่อนครับ



สำหรับผู้ที่มี Apple ID แล้ว ให้ทำขั้นตอนนี้เลยครับ
1. เปิด App Store แล้วไปที่หน้า Featured เลื่อนไปล่างสุด จะเห็น Apple ID ของคุณ (หรือเข้าทาง Settings > Store ก็ได้ครับ)

2. คลิกที่ Apple ID ของคุณ แล้วเลือก View Apple ID
3. เลือกที่ Payment Information

- เลือกประเภทของบัตรที่เราใช้ ( Visa / MasterCard ดูที่หน้าบัตร)
- ใส่ข้อมูลต่างๆเลขหน้าบัตร16หลัก วันหมดอายุ ในช่อง Card Number
- ใส่หมายเลขด้านหลังบัตร 3 หลัก ในช่อง Security Code
- กรอกข้อมูลอื่นๆเช่นที่อยู่ เบอร์โทรให้ครบถ้วน แล้วกด ปุ่ม Done ด้านบนครับ
แค่นี้เพื่อนๆก็จะสามารถซื้อ App ได้เองแล้วครับ ไม่ต้องไปรบกวนตามร้านให้ลง App แท้ที่เราไม่ได้เป็นเจ้าของอีกแล้วครับ ราคา App ส่วนใหญ่จะอยู่ที่เหรียญสองเหรียญ หรือแค่ไม่กี่สิบบาทเองครับ และมักจะมีการลดราคาหรือแจกฟรีกันบ่อยๆด้วย คอยติดตามได้ในแฟนเพจหรือทางทวิตเตอร์ได้ครับ


ติดตามอัพเดตข่าวสารได้ทางแฟนเพจ:  www.facebook.com/AppleThaiInfo

ทำความรู้จักกับ Retina Display



Retina Display เป็นคำที่ Apple เรียกคุณสมบัติของหน้าจอ iPhone 4 ซึ่งทาง Apple ได้กล่าวไว้ว่า หน้าจอแบบนี้สามารถแสดง pixel หรือจุดสี ได้มากกว่าที่ดวงตาของมนุษย์จะสามารถมองเห็นได้ โดยแสดงผลที่ความละเอียด 326 ppi(จุดต่อนิ้ว) ซึ่งสตีฟ จ๊อบส์ได้กล่าวในงานเปิดตัว iPhone 4 ว่า 300 ppi ถือเป็น "magic number" เนื่องจากเป็นขีดจำกัดในการแยกแยะความแตกต่างของจุดสีที่ประสาทตา (Retina) ของมนุษย์จะสามารถแยกแยะได้ ดังนั้น Retina Display นี้จึงมีความละเอียดมากกว่าที่ดวงตาเราจะเห็นความแตกของจุดแต่ละจุดบนจอได้ ภาพที่เห็นจึงมีความโค้งมนสวยงามไม่แตกเป็นจุดๆ



Retina display ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า IPS (in-plane switching) แบบเดียวกับที่ใช้ในจอ Apple LED Cinema และ iPad ทำให้สามารถมีมุมในการมองเห็นภาพได้มากกว่าจอ LED ทั่วๆไป ซึ่งแปลว่าไม่ว่าคุณจะถือ iPhone หันไปทางไหนก็ยังเห็นภาพได้ชัดแจ๋วสดใสอยู่ครับ นอกจากนี้ยังมี  contrast ratio มากกว่าจอรุ่นก่อนๆถึง 4 เท่า ซึ่งทำให้การแสดงภาพโทนสีสว่างก็จะดูสว่างขึ้นและโทนสีดำมืดก็จะมืดมากขึ้น ทำให้ภาพโดยรวมออกมาสวยงามมาก

วัสดุที่ใช้ทำกระจก Retina Display เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในเฮลิคอปเตอร์และรถไฟความเร็วสูง ทำให้มีความคงทนแข็งแรง ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี และยังกันคราบมันทำให้ผู้ใช้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย



ปัจจุบันได้ใช้เทคโนโลยีนี้ใน iPhone 4 , iPhone 4s และ iPod Touch Gen4
และกระแสข่าวว่า อาจจะมีใน iPad รุ่นที่ 3 และเครื่อง Mac ด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก Apple iPhone


วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Apple จะเลิกการจำหน่าย OS X แบบ USB Drive แล้ว





หลังจากที่ Apple ได้ทดลองตลาดโดยการจำหน่าย OS X Lion ผ่าน App Store ด้วยการบรรจุตัวติดตั้ง OS X ลงใน USB drive  ดูเหมือนว่าตอนนี้ Apple เตรียมแผนการที่จะยุบช่องทางนี้แล้วครับ โดยจะให้เหลือเพียงการดาวน์โหลดเท่านั้น

Apple ได้ยืนยันแล้วว่า OS X 10.8 Mountain Lion ที่กำลังมา จะมีเพียงการจำหน่ายผ่าน Mac App Store เท่านั้น โดยจะไม่มีการจำหน่ายแบบ USB อีกแล้ว (อ้างจาก Pocket-lint)

หากย้อนไปในตอนที่ Mac OS X 10.7 Lion ออกจำหน่ายในปี 2011 ทาง Apple ได้ให้ลูกค้ามีทางเลือกในการติดตั้ง OS นี้จากการ Download และยังเสนอวิธีการติดตั้งโดยให้ผู้ใช้สั่งซื้อเป็น Thumb drive ได้
ซึ่งผลตอบรับก็ปรากฏว่า USB drive ทำยอดขายได้ค่อนข้างต่ำ

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.appleinsider.com/


Apple เปิดตัว Messages for Mac รุ่น beta ให้ทดลองใช้ฟรี




หลังจากที่ Apple เปิดกระแสเรื่องระบบปฏิบัติการใหม่ OS X Mountain Lion เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ หลายท่านอาจยังมุ่งความสนใจไปแต่ที่ OS X ตัวนี้ แต่รู้มั้ยครับว่ามีอีกอย่างที่ Apple ปล่อยออกมาให้ได้ยลโฉมและให้เราได้ทดลองใช้กัน นั่นคือ Messages รุ่น beta  ครับ


คำถามแรกที่ท่านผู้อ่านอยากรู้ … Messages  มันคืออะไรใช่มั้ยครับ มันคือโปรแกรมที่ใช้แทน iChat บนเครื่อง Mac ที่รวมฟังก์ชั่นของการ FaceTime , Instant Message และ service ที่กำลังมาแรงใน iOS .. ใช่แล้วครับ iMessage ก็รวมอยู่ในนี้ด้วย ทีนี้คุณก็สามารถคุยหรือส่งข้อความไปยังอุปกรณ์ iOS ได้อย่างง่ายๆบนเครื่อง Mac แล้วล่ะครับ เจ๋งมั้ยล่ะ ^^

นอกจากนั้นยังสามารถส่งรูป วิดีโอ Contact Location และไฟล์ต่างๆ เหมือนเดิมที่เคยทำได้ใน iChat โดยจะเชื่อมต่อกับบริการ AIM , Yahoo!,Google Talk, และบริการ instant message อื่นๆด้วย



ท่านผู้อ่านที่ใช้ Mac สามารถไปดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซต์ของ Apple ที่นี่ครับ


เปลี่ยน iPhone และ iPad ให้กลายเป็นเครื่องวัดชีพจร







Cardiograph เป็นแอ็พพลิเคชั่นที่ใช้วัดอัตราการเต้นหัวใจจากชีพจรของคุณด้วย iPhone และ iPad  หลายท่านคงอยากรู้แล้วล่ะสิครับว่ามันจะวัดได้ยังไง มาอ่านกันต่อครับ


หลักการทำงานของแอ็พ Cardiograph นี้ไม่ยากอย่างที่คิดครับ เพียงแค่ใช้กล้องและไฟแฟลช LED ของตัวเครื่องเท่านั้น ก็สามารถใช้แอ็พนี้ได้ทุกที่ทุกเวลาครับ เพียงคุณเอานิ้วชี้ปิดที่หน้ากล้องเอาไว้นิ่งๆ ใช้ได้ทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลัง โดยเครื่องจะทำการวัดจากปริมาณแสงที่ผ่านนิ้วของเราเข้ามาที่กล้อง ซึ่งปริมาณความเข้มของแสงจะแตกต่างกันตามปริมาณเลือดที่ไหลเวียนนับได้ว่าเป็นการประยุกต์ใช้งานกล้องได้อย่างสร้างสรรค์มากครับ


และด้วยการออกแบบที่ทำให้น่าใช้มาก คือการทำหน้าตาได้ใกล้เคียงกับเครื่องมือแพทย์จริงๆ คือทุกการเต้นของชีพจรคุณจะรายงานออกมาเป็นรูปของคลื่นกราฟพร้อมเสียงเอฟเฟ็คประกอบที่เหมือนเครื่องมือราคาแพงในโรงพยาบาลเลยล่ะครับ


นอกจากนั้นยังสามารถเก็บเป็นโปรไฟล์แยกแต่ละบุคคลได้ เพื่อเอามาวิเคราะห์ได้ในอนาคต และยังสามารถ sync ผ่าน iCloud ได้ครับ



สามารถดูวิดีโอสาธิตการใช้งานได้ตามนี้ครับ
http://macropinch.com/cardiograph
http://youtu.be/isIjcCFYEho




ท่านใดสนใจ ดาวน์โหลดได้ที่ App Store
Download











วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

OS X Mountain Lion ไม่มีคำว่า Mac ในชื่อระบบปฏิบัติการแล้ว





Apple ได้ยืนยันแล้วว่า จะเอาคำว่า Mac ออกจากชื่อระบบปฏิบัติการสำหรับ desktop

เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ OS X 10.8 Mountain Lion เมื่อวันพฤหัสที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Apple ได้มีการเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายการค้าให้สั้นลงอย่างเป็นทางการแล้ว
โดยจากการพรีวิว Mountain Lion ได้แสดงให้เห็นชัดว่า ชื่อของระบบปฏิบัติการที่แสดงในหน้า About This Mac ไม่มีคำว่า "Mac"  แล้ว จะแสดงเพียง "OS X" เท่านั้น  ซึ่งแต่เดิม ในรุ่นล่าสุดหรือรุ่น Lion  OS X 10.7.3 นั้น ยังแสดงเป็น "Mac OS X." อยู่

และเป้าหมายหลักของ Moutain Lion คือ การพยายามนำ iOS และ OS X มารวมเข้าหากัน โดยเพิ่มระบบการใช้งานร่วมกันข้ามแพลตฟอร์ม และการแชร์กันมากขึ้น โดยนาย Tim Cook  CEO ของ Apple ได้ให้สัมภาษณ์ว่าตัวเขาได้มีมุมมองเอาไว้ว่า ในอนาคตระบบปฏิบัติการทั้งสองจะรวมเป็นหนึ่งเดียวด้วยฟังก์ชั่นที่เพิ่มมากขึ้น  และยังทิ้งท้ายถึงความเป็นไปได้ว่าในวันหนึ่งข้างหน้า Mac และ iOS อาจจะใช้งานบนโปรเซสเซอร์เดียวกัน

OS X 10.8 Mountain Lion ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆมากกว่าร้อยฟีเจอร์เข้ามาในระบบปฏิบัติการเครื่อง Mac และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในซัมเมอร์นี้ โดยจะได้พบกับ Message ที่ใช้แทน iChat และ app หลักๆที่เคยเห็นบน iOS ก็จะมีด้วยอย่าง Notes Reminders และ Game Center รวมถึงการใช้ AirPlay เชื่อมต่อกับ Apple TV


ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.appleinsider.com

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

WinZip เปิดตัวบน iOS แล้ว





สำหรับใครที่คุ้นเคยกับการเจลเบรคคงคุ้นเคยกับ app ที่ชื่อ iFile โดย iFile จะยอมให้คุณเข้าไปเลือกดู file ทั้งหมดใน iPhone ของคุณได้ และสามารถเปิดดูได้ทันที ทั้งไฟล์วิดีโอ รูปภาพ เสียง ข้อความ PDF แฟ้มข้อมูลของ Microsoft เช่น Word Excel และที่สำคัญยังสามารถเปิดไฟล์ที่อยู่ในรูปแบบที่ได้รับการบีบอัดเช่น Zip ได้

แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้เจลเบรค ที่ผ่านมาคงไม่ต้องคิดเลยว่าจะมีทางที่จะเปิดไฟล์ Zip ได้ จนกระทั่งบริษัท WinZip Computing LLC  ได้เปิดตัว WinZip ออกมาอย่างเป็นทางการบน iOS (โดยใช้ชื่อเดิมที่เคยโด่งดังบน Desktop )

WinZip สามารถที่จะเปิดไฟล์ Zip ทั้งที่อยู่บนเครื่องและไฟล์ Zip ที่แนบมากับ email
โดยรูปแบบไฟล์ที่ WinZip รองรับ ได้แก่ .txt ,.doc, .docx, .xls, .xlsx, .ppt, .pptx, .rtf, .pdf, .key, .numbers, .pages, .htm, .htm, .jsp, .bmp, .jpg, .jpeg, .tif, .tiff, .png, .gif








ท่านผู้อ่านสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่ App Store โดย app นี้เป็นแบบ universal นั่นคือสามารถใช้ได้ทั้ง iPhone, iPod touch and iPad.

ดาวน์โหลด

iPad 3 จะออกมาอย่างไร ?




หลายคนคงรอลุ้นว่า Apple จะปล่อย iPad รุ่นใหม่ออกมาเมื่อไหร่ และมีสเปคหรือคุณสมบัติอะไรบ้าง  มีการคาดเดาและข่าวลือออกมามากมาย หลายแหล่งข่าวก็บอกว่าเป็นข้อมูลที่หลุดออกมาจาก Apple วันนี้เราขอสรุปข้อมูลที่มีการกล่าวถึงกันบ่อยๆสำหรับ iPad 3 กันครับ

- หน้าจอจะเป็น Retina ความละเอียด 2048 x 1536 ซึ่งในรุ่นเดิมเป็น 1024 x 768
- ตัวเครื่องจะหนากว่าเดิมประมาณ 1 มิลลิเมตร เนื่องจากมีการปรับปรุงเรื่องของกล้องให้มีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพและวิดีโอรวมถึง video conference
- หน่วยประมวลผลหรือ CPU จะเป็น Quad-core จากเดิมที่เป็น Dual-core
- รองรับระบบ 4G , หลายแหล่งข่าวบอกว่าสามารถใช้เครือข่าย LTE 
- เปิดตัวในสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม 2012 ใน San Francisco และที่ลือกันหนาหูที่สุดคือ จะเปิดตัวในวันที่ 7 มีนาคม

เรื่องจริงจะเป็นอย่างไร จะหักมุมเหมือนตอนเปิดตัว iPhone 4S อีกมั้ย (ที่ลือกันว่ายังไงก็ต้องเป็น iPhone 5)  ยังไงสาวก Apple ก็ต้องรอติดตามกันนะครับ


ขอบคุณข้อมูลจาก : ipad3-release

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วิธีเปิด Facebook แบบ Desktop version บน iPhone




หลายท่านที่ใช้แอ็พ Facebook บน iPhone หรือเปิดผ่าน Safari บน iPhone คงจะเข้าใจดีว่าเค้าจะออกแบบหน้าตาและอินเทอร์เฟซต่างๆมาให้เหมาะกับการแสดงผลบน iPhone หรือที่เรียกว่า mobile version เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งโดยทั่วไปผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็คงใช้งานแบบไม่ติดใจอะไรนัก แต่หากใครเคยชินกับการเล่นบนคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่า Desktop version จะพบว่าการแสดงผลจะแตกต่างกันมาก และการเล่นแบบ desktop version จะมีฟังก์ชั่นบางอย่างที่ไม่สามารถทำได้บน mobile version ครับ เช่นเรื่องของการแบ่งปัน (Share) รูปภาพหรือลิงค์ต่างๆ

วันนี้ทาง Apple Thai Info จึงมานำเสนอเทคนิคเล็กๆน้อยๆที่บางท่านอาจยังไม่ทราบ ที่จะสามารถทำให้คุณสามารถเล่น Facebook แบบ Desktop version บน iPhone ได้ครับ
ทำตามขั้นตอนนี้ครับ

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Apple Thai Info จัดกิจกรรมฉลองเทศกาลแห่งความรัก




Apple Thai Info จัดกิจกรรมฉลองเทศกาลแห่งความรัก
มอบตุ๊กตา Angry Birds

กติกาง่ายๆ
เพียงคุณกด Like เพจ Apple Thai Info (www.facebook.com/AppleThaiInfo)
แล้วร่วมแสดงความคิดเห็นว่า "วันวาเลนไทน์ คุณอยากได้อะไรเป็นของขวัญ?"

ความคิดเห็นที่ถูกใจแฟนๆมากที่สุด 
จะได้รับตุ๊กตา Angry Bird ขนาด 12” มูลค่า 550 บาท 1 รางวัล

ทุกความคิดเห็นและทุกๆการแบ่งปัน (share) 
จะมีสิทธิ์ลุ้นรับ ตุ๊กตา Angry Bird ขนาด 7” มูลค่า 200 บาท จำนวน 4 รางวัล

มาเม้นต์และแชร์กันได้เลยครับ ร่วมสนุกได้ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 18:00 น. ครับ


วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โฆษณาสองตัวใหม่ของ iPhone 4S ในชื่อว่า "Road Trip" และ"Rock God"




Apple ได้ออกโฆษณาสองตัวใหม่ของ iPhone 4S ในชื่อว่า "Road Trip" และ"Rock God"
โดยโฆษณาทั้งคู่นี้แสดงให้เห็นถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายของ Siri ในการนำทาง ค้นหาสถานที่ หรือการส่งข้อความ

Road Trip



Rock God



ก่อนหน้านี้ Apple ได้ออกโฆษณา iPhone 4S มาแล้วหลายตัว เช่น ในเดือนธันวาคม 2011 ที่ผ่านมาจะปล่อยโฆษณาเรื่อง "Santa"  ที่เป็นลุงซานตาคลอสตรวจสอบสภาพอากาศและตารางเวลาในการส่งของขวัญ หรือย้อนไปในเดือนตุลาคม จะเป็นโฆษณาเรื่อง "Assistant" ที่แสดงคุณสมบัติของ Siri อย่างเน้นๆเลยครับ

หากเพื่อนๆสนใจโฆษณาต่างๆจาก Apple ลองไปดูได้ที่  http://www.youtube.com/user/Apple



วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ลาก่อน White MacBook




แอปเปิ้ลได้ประกาศแจ้งกับตัวแทนจำหน่ายแล้วว่า White Macbook หรือ Macbook รุ่นสีขาว ได้เข้าช่วงระยะสุดท้าย และจะยุติการจำหน่ายแล้ว

กระแสข่าวนี้ได้เริ่มจาก AppleInsider ซึ่งเป็นเว็บไซด์ข่าวลือวงในเกี่ยวกับ Apple ได้รายงานเมื่อช่วงปลายปี 2011 ว่า MacBook รุ่นสีขาวจะเลิกสายการผลิตแล้ว ซึ่งอีกวันถัดมา แอปเปิ้ล ได้ดึง MacBook รุ่นนี้ขึ้นมาแสดงบน website เลย ให้รู้ว่ายังไม่หายไปไหน

ต่อมาบริษัท The Cupertino, Calif. ได้ประกาศว่า MacBook รุ่นนี้อาจถูกนำมาใช้สำหรับสถานศึกษาเท่านั้น พร้อมๆกับที่ MacRumors รายงานเมื่อวานนี้ (8 มกราคม) ว่าแอปเปิ้ลได้หยุดการขายและแจ้งตัวแทนจำหน่ายว่า Macbook ได้อยู่ในช่วงระยะสุดท้ายแล้ว


MacBook เป็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้คของแอปเปิ้ลระดับต้นๆ ซึ่งจำหน่ายมานานหลายปี แต่ต้องมาพบกับคู่แข่งแบรนด์เดียวกันในปี 2010 เมื่อแอปเปิ้ลเปิดตัว MacBook Air 11.6 นิ้ว ที่ราคาเริ่มต้นที่ $999 และได้รับความนิยมสูงกว่ามาก

แอปเปิ้ลได้เปิดตัว MacBook ครั้งแรกเมื่อ พฤษภาคม ปี 2006 ในช่วงที่มีการเปลี่ยนหน่วยประมวลผลจาก PowerPC ไปเป็น Intel และในปี 2008 ได้ทำการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ทำตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม และได้รีแบรนด์เป็นชื่อรุ่นในซีรี่ส์ใหม่ว่า MacBook Pro  จนถึงปี 2009 แอปเปิ้ลก็ได้ออกแบบตัวเครื่องที่เป็นโพลีคาร์บอเนตให้ MacBook และได้จำหน่ายต่อเนื่องมาจนถึงปลายปีที่ผ่านมา

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.appleinsider.com

40 เคล็ดลับในการใช้ iPhone


เป็นที่รู้กันว่า iPhone สามารถทำอะไรได้มากมายหลายอย่าง แต่เรื่องบางอย่างคุณอาจยังไม่เคยรู้ก็ได้ครับ ลองมาดู 40 เรื่องเด็ดๆต่อไปนี้กันครับ ว่ามีเรื่องใดบ้างที่คุณยังไม่รู้ ^_^

[บทความนี้เขียนขึ้นตั้งแต่ iOS 5 ครับ แต่เทคนิคหลายๆอย่างยังสามารถใช้ได้ครับ]

กล้องและการถ่ายภาพ
ถ้าคุณอยากใช้กล้องของ iPhone ที่ใช้ iOS5 ให้เต็มประสิทธิภาพ ลองดูเทคนิคต่อไปนี้นะครับ

1. ใช้ปุ่ม + เพิ่มเสียงเป็นปุ่มชัตเตอร์

การถ่ายรูปโดยการถือ iPhone เพียงมือเดียวแล้วมากดถ่ายด้วยปุ่มในจอ เป็นสาเหตุให้ภาพเบลอ โฟกัสไม่นิ่งได้ครับ แต่หากคุณถือด้วยสองมือนิ่งๆและใช้ปุ่ม +volumn (ปุ่มเพิ่มเสียง) ถ่ายภาพ ผลที่ได้ออกมาจะดีกว่าเดิมแน่นอนครับ

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สร้างฉาก slow motion สวยๆ ด้วย TimeFreeze



ความเร็วของการบันทึกวิดีโอด้วย iPhone โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 30 เฟรมต่อวินาที   TimeFreeze  ให้คุณสามารถนำวิดีโอของคุณมาปรับให้ช้าลงได้มากถึง 1/20 ของความเร็วปกติ (เทียบได้กับกล้องที่สามารถถ่าย 600 เฟรมต่อวินาทีเลยทีเดียวครับ) นอกจากนั้นยังให้คุณใส่ดนตรีและเอฟเฟ็คต์ประกอบได้ เมื่อเสร็จแล้วที่ขาดไม่ได้คือ แชร์ให้เพื่อนๆดูทาง social network ต่างๆ อย่าง YouTube Facebook Twitter ซึ่งแอ็พตัวนี้เตรียมไว้ให้คุณเรียบร้อยแล้วครับ

TimeFreeze ไม่เพียงทำได้แค่ปรับความเร็ววิดีโอให้ช้าลงเท่านั้น แต่ยังมีฟังก์ชั่นในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวเพื่อใช้ในการคาดการณ์การเคลื่อนที่ ข้อมูลนี้จะนำไปใช้ในการสร้างเฟรมเพื่อเติมเต็มการเคลื่อนไหวของภาพสโลโมชั่นให้นุ่มนวลมากขึ้นเหมือนกับที่ใช้ในโปรแกรมตัดต่อวิดีโอมืออาชีพ อย่าง Final Cut Pro และ Adbe after effect


ตัวอย่างวิดีโอที่สร้างจาก TimeFreeze : 

* Tokyo crossing (Shibuya): http://youtu.be/Xcr2RXr4FiA 
* Side by side comparison: http://youtu.be/WPhsesZeOSI 
* Short action scene: http://youtu.be/_-RyICwR6eA 
* 20 seconds time stretch of person jumping: http://youtu.be/eMio7Z4QKHM 

เพื่อนๆสามารถเอามาใช้เล่นสนุกๆได้ เช่น: 

* สร้างวิดีโอแบบฉากหลบกระสุนในหนัง The Matrix 
* วิเคราะห์การเคลื่อนไหวในการเล่นกีฬาต่างๆอย่างเช่น ใช้ปรับปรุงวงสวิงตอนตีกอล์ฟ
* สร้างภาพ slow motion ตอนเดินบนชายหาด พร้อมดนตรีเพราะๆเป็นฉากโรแมนติคของคุณ 

ใครมีไอเดียแปลกๆสวยๆ อย่าลืมเอามาแชร์กันนะครับ







สนใจ download ได้ที่ App Store ครับ



วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ใส่ขนาดและมิติลงในรูปภาพด้วย My Measures & Dimensions






My Measures & Dimensions  เป็นแอพพลิเคชั่นที่ใช้ในการระบุมิติ ขนาด กว้าง ยาว ลึก และมุมองศาต่างๆลงบนรูปภาพ ถือว่าเป็นโปรแกรมที่มีประโยชน์อย่างยิ่งโดยเฉพาะในงานที่ต้องมีการระบุอ้างอิงถึงระยะ ขนาด มุม ของสิ่งของ อาคาร หรือสถานที่ต่างๆ อย่างงานรับเหมาก่อสร้าง วิศวกรรม สถาปนิก ช่าง หรือใช้การให้ข้อมูลของตัวสินค้าเพื่อขาย หรือประมูล

การใช้งานแอพนี้ เพียงแค่คุณถ่ายภาพหรือเลือกรูปภาพสิ่งของหรืออาคารสถานที่ที่คุณต้องการ แล้วใส่ dimemsion เข้าไป ซึ่งประกอบด้วย ลูกศร มุม และข้อความ แค่นี้ก็สามารถส่งหรือแชร์ได้แล้วครับ ง่ายๆแต่ไอเดียใช้ได้เลยครับ











Features:
✓ เขียนระยะของมิติ กว้าง ยาว ลึก ลงบนรูปภาพ
✓ ใส่ลูกศร ขนาดมุม และข้อความ
✓ สามารถจัดโฟลเดอร์ รูปภาพ/แฟ้มข้อมูล ได้
✓ แชร์รูปภาพและโฟลเดอร์ได้ง่ายๆ
✓ รองรับการแสดงเศษส่วนในหน่วย นิ้ว (inch)
✓ export รูปพร้อม dimension ไปยัง photo library
✓ ส่ง email รูปพร้อม dimension
✓ รองรับการทำงานทั้งแนวตั้งแนวนอน
✓ backup และ restore หรือ ย้ายข้อมูลได้
✓ รองรับหน่วย metric และ imperial เช่น: เมตร (meters), เซ็นติเมตร (centimeters), มิลลิเมตร(millimeters), นิ้ว(inches), ฟุต(feet) หลา (yards) แะเศษส่วน (fractions)


Download ได้ ที่ App Store ครับ



วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Apple ปล่อย OS X 10.7.3 สนับสนุนภาษาไทย






Apple ปล่อย OS X 10.7.3 ซึ่งเป็น update รอบที่ 3 ของเจ้าสิงโต Mac OS X Lion
การ update ครั้งนี้ประกอบไปด้วย Safari 5.1.3 เพิ่มการสนับสนุนภาษา และแก้ bug ต่างๆ 
ท่านที่ใช้ Lion สามารถ Update ได้ทางเมนู Software Update จาก Apple Menu หรือจะ download ตัว installer จาก Apple ก็ได้ครับ  OS X Lion Update 10.7.3 (Client Combo)




การอัพเดตเวอร์ชั่น 10.7.3 นี้ ทางแอปเปิ้ลได้ปรับปรุงแก้ไขระบบปฏิบัติการ เพิ่มความเสถียร ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ต่างๆ และปรับปรุงระบบความปลอดภัย ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ครับ
- Safari 5.1.3
- เพิ่มการสนับสนุนภาษา Catalan ,Croatian, Greek, Hebrew, Romanian, Slovak, Thai และ Ukrainian (ในที่สุดก็รองรับภาษาไทยแล้วครับ)
- เพิ่มการ log in เข้าใช้งานด้วย smart card
- ปรับปรุงการใช้งานไฟล์ข้อมูลร่วมกับ Microsoft Windows file sharing
- ปรับปรุงการ print เอกสาร Microsoft Word ที่มีการใช้ markup
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการแสดงผลหลังออกจากโหมด sleep ในเครื่อง iMacs รุ่นก่อนๆที่ใช้กราฟิกของ ATI
- แก้ไขเรื่องการเชื่อมต่อ Wi-Fi เมื่อเปิดจากโหมด sleep
- แก้ไขเรื่องการระบุสิทธิการใช้ SMB DFS share
- เพิ่มการสนับสนุนไฟล์รูปภาพ RAW ของกล้องดิจิตอลรุ่นต่างๆ 

- Canon PowerShot S100
- Nikon 1 J1
- Nikon 1 V1
- Nikon COOLPIX P7100
- Olympus PEN E-PL1s
- Olympus PEN E-PL3
- Olympus PEN E-PM1
- Panasonic LUMIX DMC-FZ150
- Sony Alpha NEX-5N
- Sony Alpha SLT-A65
- Sony Alpha SLT-A77
        อ่านรายการกล้องดิจิตอลทั้งหมดที่ OS X สนับสนุนได้ที่ http://support.apple.com/kb/HT4757




สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ update นี้ได้จาก Apple นะครับ